
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวการ์เต็ล
เนื่องด้วยวันนี้ ได้มีโอกาสต้อนรับคุณหมอชื่อดัง นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือหมอกอล์ฟ อัจริยะข้ามคืนล้านที่ 17 นั่นเอง มานั่งคุยกันเกี่ยวกับโครงการดีๆเพื่อสังคม ที่คุณหมอกอล์ฟกำลังทำอยู่ขณะนี้
แต่ก็ไหนๆ คุณหมอมาเยือนถึงถิ่นดินแดนกาแฟเสียขนาดนี้ ก็อดไม่ได้ครับที่ขอความรู้จากคุณหมอเกี่ยวกับกาแฟ และสุขภาพ กันเสียหน่อย คุณหมอเกริ่นด้วยว่า ทุกคนรู้จักกาแฟกับธุรกิจมาเยอะแล้วมั้งครับ มาฟังเกี่ยวกับกาแฟกับสุขภาพกันเสียหน่อยดีกว่า
>> คุณหมอเกริ่นด้วยกว่า คุณประโยชน์ของกาแฟนั้นมีมากมายหลายสถาน เลยครับ ก็อย่างเช่น
กาแฟช่วยเพิ่มความจำระยะสั้น และกาแฟยังช่วยเพิ่มไอคิวได้ด้วย คือ เอาง่ายๆ ถ้าดื่มกาแฟแล้วตาแข็ง แน่นอนล่ะ จะต้องมีสมาธิในการอ่านหนังสือมากขึ้น ความจำโดยรวม ในเรื่องของสมาธิ ทำให้จดจ่อได้มากขึ้น คืออันนี้ผมพูดแบบให้เข้าใจง่ายๆ แต่จริงๆคือพูดตามหลักของวิทยาศาสตร์ เจ้าคาเฟอีนจะไปกระตุ้น เรื่องของสารเซโรโทนิน ตัวหนึ่งในสมอง ฤิทธิ์ของคาเฟอีนในกาแฟนั้นไปทำให้บางส่วนของสมอง มีการทำงานของหน่วยประสาทที่เข้มแข็งขึ้น อันนี้ก็ในเรื่องของความจำ
>> มาถึงในเรื่องของที่กำลังเป็นกระแสกันบ้างดีกว่าเนาะ เรื่องของกาแฟช่วยลดความอ้วน
เค้าบอกว่ากาแฟเนี่ย ช่วยเพิ่มระบบของเมตาบอลิซึม ทำให้ปริมาณของไขมันต่อคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย ไขมันเผาผลาญมากขึ้น ก็เลยดูเหมือนว่าจะช่วยลดความอ้วนได้บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าดื่มกาแฟอย่างเดียวจะช่วยลดความอ้วน แล้วยังไปทานกะทิ ไปทานของปิ้งของทอด อันนี้กาแฟหมดไร่...ก็ช่วยไม่ได้นะครับ มันก็ต้องเสริมอย่างอื่นด้วย นี่เป็นเหมือนกับตัวช่วยเล็กๆน้อย เหมือนกับอุปกรณ์เสริมนั่นแหละ
ในส่วนของกาแฟที่กล่าวถึงสรรพคุณว่า ดื่มเพื่อลดความอ้วน ถ้าจะให้ผมกล่าวก็คือ หลักการณ์และเหตุผลคล้ายๆกัน แต่ก็จะมีส่วนอื่นที่ผสมไปด้วย เพื่มเสริมการดูดซึมวิตามิน หรือเพิ่มการเผาผลาญเมตาบอลิซึมของเรามากขึ้น เช่นบางชนิดผสมโสม หรือผสมสารบางตัวที่ขับสารพิษ เลยทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น มันก็จะลดน้ำหนักไปในตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะ ร่วมการควบคุม
อาหาร แล้วก็ออกกำลังกายไปมากขึ้นแต่จริงๆแล้ว เอาตรงนี้มาเป็นส่วนเสริมดีกว่า ความจริงแล้วก็ดื่มกาแฟธรรมดาๆแบบนี้ก็ได้นะ กาแฟสดแบบไม่ใส่นมไม่ใส่น้ำตาล แบบนี้ก็ดีกว่า ลดความอ้วนได้เหมือนกัน
>> มาถึงเรื่องกาแฟ ที่สามารถช่วยรักษาโรคไมเกรน หรือบำบัดความเครียดดีกว่า
คือผมอธิบายก่อนว่า ไมเกรนเนี่ย มันเกิดจากหลอดเลือดตรงส่วนขมับมักจะเป็นตรงขมับเนาะ มันขยายตัวไวต่อสิ่งกระตุ้นมากเกินไป แล้วมันก็เลยตุบๆ ทีนี้ ถ้าเป็นไมเกรนกาแฟจะช่วยตรงนั้น ทำให้หลอดเลือดไม่ขยายตัวมากเกินไป ถ้าถามว่า จะให้ผลดีต่อทุกคนหรือเปล่า ในทีนี้ คนที่เป็นไมเกรนหนักๆ กาแฟ ก็ยังเป็นข้อห้ามอยู่ เพราะว่าในบางคน ก็กระตุ้นให้อาการไมเกรนกำเริบ คือบอกไม่ได้นะครับ ว่า กาแฟปริมาณแค่ไหน จะช่วยรักษาได้ ผมแนะนำว่า คนที่เป็นไมเกรนเนี่ย ถ้าสามารถดื่มกาแฟได้ ก็ขอให้ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะดีกว่าครับ เดินทางสายกลางเนาะ ในงานวิจัยของกาแฟเลยนะ ความหอมของกาแฟช่วยบำบัดความเครียด ช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงาน
ได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น นั่นเป็นเพราะกลื่นกาแฟ ทำให้เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น ก็สามารถใช้ช่วงเวลาในการจิบกาแฟไปพร้อมๆ กับบรรยากาศสบายๆ กรุ่นกลิ่นหอมๆ ของอโรม่าในกาแฟเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย อันนี้ช่วยบำบัดความเครียด ได้แน่นอนครับ
จริงแล้วกาแฟช่วยได้หลายอย่างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ลดคอเลสตอรอล ป้องกันหัวใจ เป็นวิตามินบีป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ช่วยขับไล่ความชรา ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง หรือแม้กระทั่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็ง มากมายครับคุณประโยชน์ของกาแฟ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะครับ และต้องร่วมกับกิจกรรมอย่างอื่นด้วย เช่นการออกกำลังกาย กาแฟไม่ใช่ยา กาแฟเป็นส่วนเสริมเสียมากกว่า
เพราะฉะนั้นถ้าดื่มแต่กาแฟ แต่ว่ายังไปทานอาหารมัน ขาดการออกกำลังกาย ไปสูบบุหรี่ ไปดื่มเหล้า โรคพวกนี้ก็ต้องเกิดอยู่แล้ว เอาเป็นว่าเราดื่มเพื่อความรู้สึกสดชื่น ความกระฉับกระเฉง เพื่มความจำเล็กน้อย แล้วก็ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ของปอดและหัวใจ แต่ว่าอย่าดิ่มมากเกินไปจนทำให้หัวใจและปอดทำงานหนัก หรือหวังผลเล็กๆน้อยๆจากกาแฟในทางที่ผิด เช่นไปใช้ในการลดความอ้วน ซึ่งจริงๆแล้ว มันต้องควบคู่ไปกับอย่างอื่นที่ผมบอก
โอ้โห้..เป็นไงครับเพื่อน ได้รับทราบ ความรู้เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของกาแฟจากคุณหมอมาขนาดนี้แล้ว ถึงเวลาบอกเล่าข่าวสาร จากคุณหมอถึงคอกาแฟทั้งหลาย เพื่อสังคมกันบ้างครับ
โครงการที่นำมาบอกต่อเพื่อนๆครั้งนี้ ชื่อโครงการเฉลิมพระเกียรติห่างไกลยาเสพติด ครั้งนี้เป็นที่ 3แล้วครับ
โครงการของผมก็สืบเนื่องด้วย หนึ่งในปัญหาที่สำคัญซึ่งยังคงไม่จางหายไปจากประเทศของเรา นั่นก็คือ ปัญหายาเสพติดครับ มันจะยากมากเลยครับที่จะทำให้ไม่มีคนเสพยาเลยในประเทศไทย แต่มันจะง่ายกว่าที่จะไม่ให้มีเหยื่อของยาเสพติดมากขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าลูกหลานของเราจะไม่ตกไปเป็นเหยื่อของมัน
และจากที่ผมในฐานะเป็นคุณหมอที่เป็นนักเขียนนะครับ ผมก็เลยริเริ่มเกิดโครงการนี้มา โดยผมได้เขียนหนังสือ ชื่อผลงานเรื่อง "น้ำมนต์" มีทั้งหมด 6ตอน แต่ละตอนนี้เราจะทราบถึงชีวิตของน้ำมนต์ ที่พลาดไปติดยาเสพติด จนกระทั่งชีวิตเค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างจากการติดยาเสพติด จนกระทั่งตอนหลังว่าเลิกยาเสพติดได้ไหม หรืออย่างไร เป็นหนังสือแนวสนุกสนานแฝงสาระเรื่องยาเสพติด โดยใช้ภาษาที่อ่านง่าย อ่านได้ทุกวัย โดยที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย แลถแทรกด้วยสาระ เช่น ยาเสพติดมีกี่ประเภท มีกฎหมายของยาเสพติด มีเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่ทำด้านนี้อยู่ วิธีทำอย่างไรให้ห่างไกลยาเสพติด กระทั่งประวัติของผู้ป่วยที่สามารถเลิกยาได้
ทีนี้พอเป็นหนังสือในลักษณะนี้ขึ้นมา ผมก็ต้องการให้เยาวชนมีโอกาสได้อ่านกัน ก็เลยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการนำหนังสือเล่มนี้ ไปแจกให้กับเยาวชน ตามโรงเรียนทั่วประเทศไทยไม่ว่าจะจังหวัดไหนห่างไกลแค่ไหนก็ตาม โดยรอบแรกมอบหนังสือไป 5พันเล่ม แต่โรงเรียนที่มีอยู่ทั่วประเทศที่สังกัดของกระทรวงศึกษา รวมทั้งหมดมี 2พันกว่าโรงเรียน เท่ากับว่าครั้งแรกไปเนี่ย ได้โรงเรียนละ 1-2 เล่มเท่านั้น ซึ่งก็ไม่เพียงพอแน่ๆ ก็เลยทำครั้งที่2ครับ ซึ่งก็มอบไป 5พันเล่มเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี โดยในแต่ละครั้งที่ผมทำ จึงมีคนที่มาสนับสนุนอยู่ด้วยเสมอๆ ซึ่งคราวนี้รอบที่ 3นี้ นอกจากจะมอบหนังสือแล้ว ผมจะไปบรรยายถึงที่โรงเรียนต่างๆ ที่ไปมอบหนังสือ เป็นการบรรยายเกี่ยวกับ วิธีการที่จะห่างไกลยาเสพติด หรือรู้เท่าทันเกี่ยวกับโทษของยาเสพติด ซึ่งผมเองไม่สามารถทำโครงการนี้ด้วยตัวผมคนเดียวทั้งหมด ก็เลยเอาโครงการดีๆ แบบนี้มาเล่าสู่กันฟัง ถ้าเกิดเพื่อนๆชาวคอกาแฟ หรือท่านใดที่สนใจร่วมโครงการนี้ และยินดีที่จะช่วยร่วมสนับสนุน ก็สามารถเข้าร่วมทริปการบรรยายกับเราได้นะครับ หรือช่วยกันร่วมประชาสัมพันธ์โครงการในรูปแบบต่างๆ หรือร่วมสนับสนุนงบประมาณในด้านต่างๆได้นะครับ
โครงการดีๆ เช่นนี้ สาวกชาวการ์เต็ลออนไลน์ทั้งหลาย พลาดไม่ได้เสียแล้วนะครับ