
Cartel : สวัสดีครับ แนะนำตัวกันก่อนนะครับ
Guess : สวัสดีครับ สุวรรณครับ ชื่อเล่น เจี๊ยบ ธุรกิจหลักๆที่ทำก็เป็นเกษตรกร ทำฟาร์มกุ้ง อยู่จังหวัดระยองครับ
Cartel : จากเป็นเกษตรกรฟาร์มกุ้ง แล้วทำไมถึงได้ตัดสินใจทำธุรกิจกาแฟครับ?
Guess : คือถ้ามองจริงๆเหมือนคนละมุม คนละด้านเลยนะครับ แต่ที่จริงแล้ว กาแฟเนี่ยใครๆ ก็กิน เกือบจะทุกคนที่กิน ยิ่งเกษตรกรที่ทำงานฟาร์มด้วย บอกได้เลยว่าเกือยร้อยเปอร์เซ็นต์ แรกๆ เรากินเนี่ยเพื่อให้เรากระตือรือร้นในการทำงาน พอกินไปเรื่อยๆ เอ๊ะ!!! ทำไม กาแฟแต่ละยี่ห้อมันต่างกัน ยี่ห้อนู้นเราถูกใจ ยี่ห้อนี่กินไม่ได้เลย ก็เลยเป็นความฝัน ว่าเออ....สักวันนึงเราจะทำร้านกาแฟ แล้วเราจะต้องหากาแฟที่เราถูกใจ และเพื่อนๆเราถูกใจ และที่ทุกคนถูกใจ
Cartel : ทำการบ้านมานานไหมครับก่อนมาเปิดร้านกาแฟ?
Guess : ไม่นานครับ 4ปี ..... (ไม่นานเลยจริงๆ - -') คือไปลองชิมมา ตั้งแต่ภาคเหนือ อิสาน ภาคใต้ตอนบน ก็กินมาเกือบทุกที่แล้ว คือจริงๆผมเป็นคนชอบท่องเที่ยว เวลาว่างจากงานฟาร์ม แล้วก็จะมีเวลาว่างเดือนสองเดือน ก็จะเที่ยวอย่างเดียวไปเที่ยวจังหวัดนึง ก็อยู่เป็นเดือน แล้วก็เสาะหาว่าจังหวัดนี้มีกาแฟร้านไหนดัง เรียกว่าเที่ยวไปชิมไปฮ่าๆ แวะชิมกาแฟไปด้วยเรื่อยๆครับ 
Cartel : แล้วทำไมถึงได้มาถูกใจกาแฟสวัสดีเป็นพิเศษล่ะครับ?
Guess : อาจเป็นเพราะว่าบังเอิญ คือวันนั้นไปเดินแถวตลาดบองมาร์เช่กลับเพื่อนๆ แล้วเพื่อนก็เอากาแฟมาให้ลองกิน ก็ถามเพื่อนว่านี่กาแฟอะไรอ่ะ เพื่อนบอกนี่กาแฟสวัสดี ก็นึกเลยว่า รสชาติอย่างนี้ เป็นรสชาติที่เราถูกใจ ถ้าเราจะเปิดร้านกาแฟเนี่ย ต้องเอาแฟรนไชส์ยี่ห้อนี่แหละ เพราะมันถูกใจ แต่ก็นะ พูดปุ๊บยังไม่ได้ทำหรอก
Cartel : คุณสุวรรณ มีแนวทางในการบริหารจัดการร้านกาแฟอย่างไรครับ?
Guess : คือบริหารจัดการเนี่ย เราถามตัวเองเป็นหลักก่อนว่า เวลาเราเข้าไปร้านกาแฟเนี่ย เราต้องการบริการอย่างไร บรรยากาศแบบไหน ด้วยส่วนตัวผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ชอบมุมเงียบๆ ไว้เล่นอินเตอร์เน๊ต มีมุมดีๆ นั่งชมสวน ตอนเย็นๆ คือให้ลูกค้าเข้ามาแล้วเค้านั่งอยู่นานๆ แล้วเค้าก็จะปากต่อปากไปเรื่อยๆ และในอนาคตระยะยาวก็จะได้ลูกค้าประจำไปเรื่อยๆ

Cartel : ฉะนั้นในกลุ่มตลาดของผู้บริโภคของคุณสุวรรณจะมองไปทางลูกค้าประจำมากกว่า?
Guess : ลูกค้าประจำแล้วก็ลูกค้าจร คือเนื่องจากทำเลของเรานี่ไม่ใช่เหมือนปั้มน้ำมัน หรือเป็นอะไรที่จะมีลูกค้าจรเข้ามาเยอะแยะมากมาย ส่วนใหญ่ก็คือ 80-90% นี่จะเป็นลูกค้าประจำ ก็จากลูกค้าขาจร แล้วก็เปลี่ยนเป็นลูกค้าประจำ บางคนก็มากันเป็นครอบครัว บางคนก็มาเป็นกลุ่มมานั่งคุยงานสัมมนาอะไรกันเล็กๆ
Cartel : คุณสุวรรณคิดว่ากลุ่มผู้บริโภคหรือเจ้าของร้าน ใครควรเป็นผู้กำหนดรสชาติกาแฟครับ?
Guess : คือผมว่า อันดับแรกเจ้าของร้านต้องเป็นคนกำหนดก่อน แล้วจะมีกลุ่มผู้บริโภคที่รสชาติถูกใจเค้า เข้ามาหาเอง ขึ้นอยู่กับการบริการและระยะเวลา คือถ้าเราเปิดๆปิดๆ ลูกค้าประจำก็จะหายไป ระยะเวลาไม่นานพอ ก็จะไม่มีลูกค้าประจำ คือบางคนอาจทำแค่ 3เดือน 4เดือน ซึ่งต้องเข้าใจว่า คนดื่มกาแฟเค้าจะมีร้านประจำของเค้าอยู่ การที่คุณจะไปแย่งลูกค้าจากเค้ามา คุณต้องมีอะไรที่พร้อมกว่า ที่ดีกว่า ถ้าไม่มีเนี่ยมันยาก คุณต้องหาจุดเด่นของคุณให้ได้ ว่าร้านคุณจะต้องทำอะไรแบบไหน ถ้าไม่มีเนี่ยมันยาก แล้วเราเปิด3เดือน แต่เดี๋ยวเปิด เดี๋ยวปิด คือ ความอึด ความอดทน และความตั้งใจ ตั้งใจที่จะให้มากกว่าที่จะรับ ผมว่าถ้าเราตั้งใจจริงเนี่ยไม่เกิน6เดือน คุณก็จะมีลูกค้าประจำ จากนั้นสักปีนึงเนี่ย เราก็จะได้เก็บเกี่ยวจากสิ่งที่เราลงทุนไป

Cartel : วางแผนอนาคตการเติบโตไว้อย่างไรบ้างครับ?
Guess : เนื่องจากสถานที่เราค่อนข้างจะได้เปรียบ คือเราต้องหาจุดเด่นของเราก่อนว่า ทำเลของเรา เราขายขาจรไม่ได้ แต่จุดเด่นของเราคือเป็นธรรมชาติค่อนข้างสูง เนื้อที่ค่อนข้างกว้างมาก ประมาณ55ไร่ ทีนี้ 55ไร่ เราจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้อย่างไร เราตั้งใจจะทำเป็นปอดของคนกรุงเทพ ก็คือสิ่งหนึ่งที่เป็นความฝันเลย คือในเมื่อเราประสบความสำเร็จแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราหวังก็คือเราจะตอบแทนคืนสู่สังคม จะคืนยึดตามหลักของในหลวงเรา ก็คือยึดตามเศรษฐกิจพอเพียง ผมก็จะกันเนื้อที่ประมาณ 25-30ไร่ ทำเป็นแบบมินิโมเดล แล้วให้ทุกคนเข้ามสัมผัสเข้ามาเรียนรู้ เข้ามาศึกษา รวมถึงการพักผ่อน คือเราอยู่กรุงเทพฯ เรารู้ว่าการพักผ่อนของคนกรุงเทพฯ คือไปห้าง ไปสปอตคลับที่เป็นห้องแอร์ คือพักผ่อนได้ แต่ไม่เต็มที่ไม่เต็มปอด ไปแออัดกัน แต่ถ้าเรามีที่ ที่เราเดินเข้ามาตอนเย็นๆ หรือเช้าๆ สูดหายใจให้เต็มที่ มันมีแต่มลภาวะที่ดีๆ ทั้งจิตใจและอารมณ์ คุณเข้ามาศูนย์แห่งนี้ คุณได้อะไรกลับไปใช้กับชีวิตของตัวเอง ได้อะไรไปใช้กับความพอเพียงที่ทุกคนจะต้องมี นี่คือความฝันว่าทำไมเราต้องทำตรงนี้ให้สำเร็จ เพราะเราอยากจะกลับคืนสู่สังคมบ้าง

Cartel : ถ้ามีคนอยากเปิดร้านกาแฟบ้าง คุณสุวรรณจะแนะนำอย่างไรครับ?
Guess : ก็คือ ตอนนี้จะมีหลายแฟรนไชส์ หลายแบรนด์ ให้คุณได้เลือกเยอะแยะ เต็มไปหมด เพียงแต่ว่าการที่จะเลือกเนี่ย เลือกแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา ถ้าคุณลงทุนเยอะแยะมากมาย บางยี่ห้อบางแฟรนไชส์อาจจะหมดเป็นหลายล้านบาท บางยี่ห้ออาจเป็นหลักหมื่น ต้องหาจุดสมดุลของตัวเองให้ได้ ยกตัวอย่างผมทำไมผมถึงเลือกตรงนี้ คืออันดับแรกเนี่ย ผมจะเปิดร้านกาแฟผมต้องเป็นคอกาแฟ ผมได้คัดกรองได้ว่า กาแฟแบบไหนที่ลูกค้าผมชอบ ถ้าผมไม่เป็นคอกาแฟผมจะยากที่จะเข้าใจลูกค้า อันนี้คือสิ่งแรกที่ให้ทุกคนเลือกเลยว่า เราเลือกชิมกาแฟที่เราชอบ แล้วก็ค่อยเข้าไปดูแฟรนไชส์นั้นว่าเหมาะสมกับคุณไหม กับการลงทุนในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ไหม คือถ้าคุณลงเยอะโอกาสคืนทุนกี่ปี คุณก็ต้องคำนวณเพราะเราเป็นนักธุรกิจเราก็ต้องรู้ เพียงแต่ว่าอันดับแรกที่ให้เลือกนี่คือ เลือกในรสชาติ เลือกในการบริการของแฟรนไชส์ เค้ามีความพร้อมอะไรให้คุณบ้าง มีความรับผิดชอบขนาดไหน แต่ไม่ได้บอกว่าต้องมาเลือกกาแฟสวัสดีนะฮ่าๆๆ แต่สำหรับผมแล้วผมพอใจมากๆ กับการบริการของทุกๆคน ผมไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดจริงๆ
Cartel : คุณสุวรรณคิดว่าความไม่มั่นคงทางการเมืองที่ต่อเนื่องมานานเนี่ย มีผลกระทบต่อร้านกาแฟบ้างไหม?
Guess : ไม่นะ ไม่กระทบ เพราะว่าคนดื่มกาแฟเนี่ย เช้าขึ้นมายังไงต้องกิน คือผู้บริโภคกาแฟสดเนี่ย ยังไงเค้าก็ไม่มากินกาแฟสำเร็จรูป อันนี้ผมบอกได้เลย ยกเว้นว่าเค้าไม่มีดื่ม ฮ่าๆส่วนการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมืองไป เราทำธุรกิจเราก็ทำหน้าที่ของเราไป โดยที่ผมมองก็คือ การเมืองเกี่ยวกับธุรกิจไหม มันก็เกี่ยวอยู่บ้าง แต่ว่าเราไปทำอะไรได้ ก็คือเราก็ต้องปล่อยให้เค้าว่ากันตามนั้นไป เราก็ปรับตัวตามสถานการณ์ ก็ปรับตัวเป็นน้ำไป คืออยู่ตรงไหนก็ต้องอยู่ได้ แต่ถามว่าผมปรับตัวอย่างไร ก็คือคนใช้จ่ายน้อยลงบ้าง ผมก็ปรับลดราคาลงเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ แต่พอถึงเวลาที่อะไรๆเริ่มจะปรับตัวดีขึ้น ผมก็คงจะบอกลูกค้าว่า ขอขายตามราคาเดิมนะ ซึ่งผมว่าลูกค้าก็น่าจะเข้าใจนะ
Cartel : ขอบคุณคุณสุวรรณมากครับ สำหรับข้อคิดดีๆ มากมายในวันนี้?
Guess : ครับยินดีครับผม เรียนเชิญเพื่อนๆทุกคนนะครับ หากแวะเวียนมาแถวมีนบุรี ก็แวะมานั่งจิบกาแฟ กับบรรยากาศดีๆ ที่ร้านผมได้ครับ กาแฟสวัสดีสาขาถนนนิมิตใหม่ ซอย1 ตรงข้ามสถานีควบคุมก๊าซปตท.จุดที่28ครับ
